วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

When you smile ^^


           เคยลองคิดเล่นๆดูไหมค่ะ ว่าทำไมเราถึงยิ้มออกมา อย่างเช่นว่า วันนี้เรารู้สึกสบายใจ รู้สึกว่าวันนี้อากาศดีจัง จะทำอะไรมันก็ดีไปหมด หรือว่าเวลาที่เราได้อยู่กับคนที่รัก เรามักจะยิ้มออกมาใช่ไหมค่ะ แล้วเราเคยยิ้มเพราะเห็นคนอื่นยิ้ม เห็นคนอื่นมีความสุขบ้างไหมค่ะ ทั้งที่บางที่มันไม่ได้เกี่ยวกับเราซะหน่อย แต่มันก็ทำให้เราเผลอยิ้มหรือว่าแอบอมยิ้มอยู่ในใจได้ จะว่าไปมันก็แปลกดีนะค่ะ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น แต่มันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกดี ^^


          ฉันชื่อ อรณัฐ  พงศ์ยี่ล่า ค่ะ ชื่อเล่นว่า ฮูดา ที่หมายถึงแนวทางของพระเจ้า ชื่อนี้ป้าเป็นคนตั้งให้ ป้าบอกว่าเป็นชื่อของนักกีฬาว่ายน้ำของประเทศมาเลเซียที่ดังมากในสมัยนั้น ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่จะเรียกกันให้สั้นกว่านั้นว่า ดา ก็ได้นะค่ะ ดาเกิดวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 หรือว่าวันปีใหม่ของปี 2535 นั้นแหละค่ะ ตอนเด็กๆ ดาเป็นคนที่ซนและซุ่มซ่ามมาก ชอบปีนป่ายเป็นลิงเลยทีเดียว ก็เลยได้แผลมาเยอะพอสมควร แต่ที่หนักที่สุดก็คงเพราะความซุ่มซ่าม ลื่นล้มในห้องน้ำ คางแตกจนต้องให้หมอเย็บ ก็โดนไปหลายเข็มเลยละ แต่ความซุ่มซ่ามมันก็ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะว่าเมื่อแผลเก่าหายดีแล้วก็ยังไปสะดุดเชือกที่เขาผูกไว้ค้ำต้นไม้ไม่ให้มันล้มจนคางแตกอีกรอบ แต่ไม่หนักเท่าครั้งก่อน หลังจากนั้นแม่เลยให้ไปเรียนรำไทย เพื่อจะได้ลดระดับความซนลงมาบ้าง แต่ความซุ่มซ่ามยังคงอยู่ 555



          ดาเป็นคนนครศรีธรรมราชค่ะ พ่อดาลาออกจากราชการมาเลี้ยงไก่ไข่เป็นหลัก นอกจากนี้ก็ยังเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงแพะ แล้วก็เพาะพันธุ์ปาล์ม ส่วนแม่รับราชการ อยู่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราชเขต 1 ดาเป็นลูกคนโตของพ่อกับแม่ มีน้องสาว 1 คน และน้องชายอีก 1 คน ดากับน้องรักกันมาก เชื่อไหมค่ะ ถ้าไม่เชื่อจะเล่าให้ฟังว่ารักกันยังไง ตอนช่วงที่ดาอยู่มอต้น น้องสาวดาเป็นอีสุกอีใสค่ะ แม่ก็เลยให้น้องนอนคนเดียว ทั้งที่ปกติแล้วจะนอนห้องเดียวกับดา และด้วยความที่น้องกลัวผี ก็เลยชวนดามานอนด้วยกัน ด้วยความรักน้องค่ะ ก็เลยไม่ปฏิเสธ มานอนด้วยกันกับน้อง วันรุ่งขึ้นกลายเป็นว่าดาเป็นอีสุกอีใสด้วย แค่นั้นยังไม่พอ คืนต่อมาดากับน้องสาวก็เลยชวยน้องคนเล็กมานอนด้วยกัน  สรุปก็คือ เป็นด้วยกันทั้งสามคนเลยค่ะ ทีนี้เชื่อหรือยังละค่ะ ว่าเรารักกันมาก


          นอกจากนี้ดายังสนิทกับญาติๆ ทางฝ่ายแม่มาก เพราะเจอกันบ่อย แล้วก็เป็นครอบครัวที่ลุยๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขึ้นเขา เข้าป่า ลุยโคลนได้หมด แถมยังชอบแกล้ง ชอบอำกันมาก ใครนอนตื่นสายไม่ได้เลยค่ะ เพราะว่าต้องโดนแกล้งแน่นอน เวลามารวมตัวกันที่ก็จะเยอะมาก เพราะพี่น้องแม่มีกัน 11 คน ถ้ารวมบรรดาหลานเหลนด้วยแล้วก็ประมาณ 40 คนเลยทีเดียว วุ่นวายมากทีเดียว แต่ก็สนุกและมีความสุขมากค่ะ อีกอย่างบรรดาป้าๆและแม่ ทำอาหารอร่อยมาก เวลามีงานบุญก็ไม่เคยไปจ้างคนอื่นทำ จะทำกันเองทุกอย่าง โดยมีลูกๆหลานๆนี้แหละค่ะเป็นลูกมือให้ นอกจากจะสร้างความอบอุ่นภายในครอบครัว และความอิ่มอร่อย โดยต้องเสียเงินเยอะแล้ว ยังได้สอนลูกหลานให้ทำงานเป็นอีกด้วย




         มาว่ากันด้วยเรื่องการศึกษา ดาเรียนอนุบาลและประถมที่โรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช " ณ นครอุทิศ " โรงเรียนเล็กๆ ที่เดินไม่มีก้าวก็รอบโรงเรียนแล้ว แต่อยู่ใจกลางเมือง และเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช โรงเรียนที่ใหญ่มาก ที่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยเดินรอบโรงเรียน แต่ว่าอยู่ชานเมือง ต้นไม้เยอะมาก ถึงแม้ตอนนี้มันจะน้อยลงไปบ้าง มีสระน้ำที่นักเรียนส่วนใหญ่เรียกว่า สระชาเขียว เพราะน้ำในสระมีสีเขียว ซึ่งนักเรียนจะชอบมานั่งให้อาหารปลากัน มีคุณครูที่ดี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่น่ารัก โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุข มิตรภาพ น้ำตา รอยยิ้ม ความทรงจำดี และประสบการณ์ดีๆ


          ตอนนี้ดาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ คณะวิทยาศาสตร์ เอกคณิตศาสตร์ (กศ.บ.) เวลาเพื่อนถามว่าดาเรียนที่ไหน เพื่อนก็เป็นอันต้องงงค่ะ เพราะว่าดาจบมอปลาย แผนศิลป์ - คำนวนมา แต่เรียนคณะวิทย์ แล้วยังบอกว่าเรียนครูคณิตอีก เพื่อนเลยยิ่งงงกันไปใหญ่ อย่าว่าแต่เพื่อนเลยค่ะ ตอนดาลงแอดมิดชั่น ดาเองก็งงค่ะ แต่ก็แอบดีใจ ที่ไม่ได้เรียนแผนวิทย์มา แต่สามารถเรียนครูคณิตที่นี้ได้ ตอนนี้ดาเรียนอยู่ปี 3 เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยหนักเลยทีเดียว โชคดีที่มีเพื่อนๆ พี่ๆ และครอบครัวที่คอยดูแล เทคแคร์ ให้กำลังใจและช่วยเหลือกันมาตลอดค่ะ




          ดาจะเป็นคนที่เงียบๆ และไม่ค่อยคุยกับคนที่ไม่สนิท เจอกันแรกๆ อาจจะดูเรียบร้อย แต่จริงๆ ไม่ใช่อย่างที่เห็นหรอกค่ะ เป็นคนที่ไม่ค่อยโกรธ นอกจากเบื่อ เซ็งแล้ว ก็จะอารมณ์ดีตลอด ดาเป็นคนชอบอ่านหนังสือ บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นหนังสือแบบไหน คือถ้าเห็นว่าเล่มไหนน่าสนใจ น่าอ่าน ก็อ่านเล่มนั้น ยกเว้นหนังสือเรียนนะค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบนักเขียนคนไหนเป็นพิเศษ บอกได้เลยค่ะ ว่านิ้วกลม หรือว่าพี่เอ๋ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ถ้าอยากรู้ว่านิ้วกลมมีดียังไง ต้องลองหาหนังสือของเขามาอ่านดูค่ะ  




          หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว เราคงรู้จักกันมากขึ้น ดาหวังว่าทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน จะอ่านไป ยิ้มไป เหมือนที่ดาเขียนไป ยิ้มไปนะค่ะ และขอให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิตค่ะ สู้ๆ เข้าไว้นะค่ะ เมื่อเราผ่านมันมาได้ ดาเชื่อว่าต่อให้เรากลับไปนึกถึงมันอีกกี่ครั้ง เราก็ยังยิ้มได้ค่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรานั้น คือสิ่งที่ทำให้เราเป็นเราได้ในทุกวันนี้ค่ะ


         ขอฝากทิ้งท้ายไว้อีกนิดว่า " ถ้าวันไหนเรารู้สึกว่าเราไม่มีความสุข ลองเปลี่ยนมุมมองของตัวเองดูนะค่ะ บางทีความสุขมันอยู่ใกล้ๆเรานี้แหละ เพียงแค่เราไม่เคยจะมองเห็นซะที " ลองดูนะค่ะ